บล็อก

เมื่อวันอังคารที่ 8 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา นายภัทรพันธ์ กฤษณา (พี่บี) นายกสมาคมวีลแชร์บาสเกตบอลไทย พร้อมด้วย นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมมอบรางวัลให้แก่นักกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอล ในการจัดแข่งขัน “วีลแชร์บาสเกตบอลประเทศไทย ประจำปี 2563” โดยการจัดงานในครั้งนี้ ทางสมาคมกีฬาวีลแชร์บาสเกตบอลไทย เป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขัน และบริหารการจัดงานทั้งหมด รวมถึงการมีส่วนร่วม ของ “สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย” ที่เป็นผู้ดูแลสนับสนุน สำหรับวีลแชร์บาสเกตบอล ซึ่งมีหลายจังหวัดสนใจส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันเป็นจำนวนมาก

วันสุดท้าย 8 ก.ย.63 เป็นการชิงชัยไฮไลต์อยู่ที่รอบชิงชนะเลิศ วีลแชร์บาสเกตบอล 5 คน เป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง ทีมวีลแชร์ยัดห่วงหนุ่มจังหวัดนนทบุรี ที่ขนผู้เล่นดีกรีทีมชาติไทยมาแบบฟูลทีม

ด้าน นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการได้ติดตามชมเกมการแข่งขันรายการนี้มาอย่างต่อเนื่องทำให้ตนได้เห็นถึงพัฒนาการของนักกีฬาโดยเฉพาะนักวีลแชร์บาสฯ รุ่นใหม่ ซึ่งเห็นได้จากผลงานของทีมจังหวัดสระบุรี ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นดาวรุ่ง ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ในประเภท 3×3มาครองได้ และยังสามารถเข้าชิงในประเภท 5 คนได้นั้น ทำให้ต้องบอกว่านี้เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับวงการวีลแชร์บาสเกตบอลทีมชาติไทยอย่างมาก เพราะมันทำให้เราสามารถต่อยอดกีฬาชนิดนี้ได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

กีฬาประเภททีมไม่ง่ายที่จะทำให้สำเร็จเพราะคนทำกีฬาต้องใจถึงเป็นที่พึ่งได้ของทุกภาคส่วน และวีลแชร์บาสเกตบอลก็ทำให้เราเห็นว่ากำลังไปเดินสู่จุดหมายนั้น รวมทั้งยังได้รับความสนใจจากเด็กๆและเยาวชนคนรุ่นใหม่จากหลายคน การจัดร่างกายสรีระถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนพิการที่จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เป็นการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย เปรียบเสมือนเราได้ทดลองกติกาใหม่ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันวีลแชร์บาสเกตบอลลีกครั้งแรกในประเทศไทย ชนิดกีฬาแรกของคนพิการที่จะเกิดในระบบลีก ในฐานะคนทำกีฬาและผู้บริหารสมาคม รู้สึกตื่นเต้น ถ้าเกิดทำได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงวงการการกีฬาคนพิการไปอีกรูปแบบหนึ่งที่จะก้าวกระโดด รวมถึงการผลิตนักกีฬามืออาชีพคนพิการ ส่งเสริมให้มีรายได้ที่ชัดเจน อีกทั้งยังมีการสร้างทีมใหม่ๆ ตามต่างจังหวัด หรือสโมสรต่างๆ ก็จะเป็นการพัฒนาศักยภาพของคนพิการได้อย่างแท้จริงต่อไป